ดินแดนมีชื่อว่าความฝัน เทศกาลดนตรี บนเกาะกลางน้ำ "มีชื่อโฟล์คเฟสติวัล ครั้งที่ 2"
หลายคนอาจคิดว่า แรงขับเคลื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตคือเงินทอง แต่กับคนบางคนนั้น หนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่ดีที่สุด มีชื่อว่า "ความฝัน"
มีชื่อโฟล์คเฟสติวัล งานดนตรีที่เกิดจากความฝัน เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่เคยหลับและฝันถึง วันนี้มันเกิดขึ้นและดึงดูดพวกเราให้มาพบเจอกัน ในดินแดนความฝันที่มีชื่อ ในยุคสมัยที่งานดนตรีโฟล์คเกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าด้วยอะไรก็แล้วแต่ โดยผมและทีมงานลงความเห็นกันแล้วว่า นี่คือเทศกาลดนตรีโฟล์คที่ดีที่สุดในเวลานี้ พูดคุยกับ คมน์ คำแพง หรือ พี่เบนซ์ หัวเรือใหญ่แห่งค่าย Gru Record ผู้ริเริ่มก่อร่างสร้างความฝันที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้ มีชื่อโฟล์คเฟสติวัล

ที่เลือกจัดงานที่จังหวัดนี้ เพราะเป็นคนเพชรบูรณ์ ?
เบนซ์ : ใช่ครับ เกิดตำบลบ้านติ้ว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ บ้านเกิดเลย โตมาที่นั่น เรียนโรงเรียนประถมที่บ้านติ้ว มัธยมหล่มสัก แล้วก็มาต่อ ปวช ที่เทคนิคเพชรบูรณ์
ทำไมถึงคิดจะจัดงานตรงนั้นที่เกาะกลางน้ำ แล้วมันเป็นเกาะกลางน้ำประเภทไหน คือมันเป็นสวนสาธารณะหรืออะไรครับตรงนั้น
เบนซ์ : มันอยู่ออกจากตัวเมืองหล่มสักไปประมาณ 7 กิโล เป็นพื้นที่ของชุมชน หมู่บ้านที่เขาเลี้ยงหอย ปูปลา กัน เหมือนแต่ก่อนเขาเอาปลาไปปล่อย ใครมาจับก็ได้ มาตกก็ได้ คนในหมู่บ้านนะครับ เหมือนเป็นพื้นที่เป็นน้ำสำหรับใช้ในการเกษตร แต่ก่อนมันไม่เป็นเกาะนะ มันเป็นหนองใหญ่เลย น่าจะทางผู้บริหารทำขึ้นมาให้มันเป็นเกาะ เพื่อให้มันเป็นที่พักผ่อนของชุมชน ก็ขุดดินขึ้นมา แต่เท่าที่จำได้ก็คือ ที่มันเป็นความทรงจำแรกนะครับ เราเคยไปเล่นน้ำ มีควาย มีวัว แบบว่ามีความผูกพันธ์อยู่กับพื้นที่ตรงนี้ครับ

อารมณ์เหมือนตรงนั้นเป็นบ้านเกิด ก็เลยอยากเอาเฟสติวัลไปจัดที่บ้านเกิด ?
เบนซ์ : มันเป็นความคิดที่ว่า ผมเข้ากรุงเทพฯด้วยความฝันมาเรียนวิศวะนะ แต่ว่าใจก็ไม่ได้อยากมาเรียนทางวิศวะ ใจอยากเป็นนักดนตรี อยากเข้าเมืองหลวง อยากตามรอยศิลปินที่เราชอบ อย่างเช่น พี่ปูพงษ์สิทธิ์ , น้าหงา คาราวาน พูดง่ายๆเหมือนต้องหอบความฝันมาเรียน แล้วมีความคิดว่า วันหนึ่งเราอยากทำงานด้านนี้ แล้วสักวันหนึ่งเราอยากกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเรา เหมือนที่เราอยากทำ เราคิดว่าสักวันหนึ่งเราต้องทำอะไรให้บ้านเกิดเราให้ได้ ให้เขารู้จักบ้านเกิดเรา ให้เขามีรายได้ แล้วมันก็เดินทางมาหลายปีแล้วนะ ล้ม ลุก คลุก คลาน ทำร้านอาหาร เจ๊งบ้าง ไม่เจ๊งบ้าง เจอวิกฤตอะไรหลายอย่าง ก็จนมาทำร้านเหล้า The Gru แล้วก็มีน้องที่แบบ มันมีพวกเขียนเพลงเอง แล้วก็มาโชว์กันที่ร้าน แล้วเราคิดว่าก็อยากทำบ้าน คือไม่ถึงกับค่ายเพลงหรอกแล้วมันก็บวกกับว่า จะทำยังไงให้น้องได้ขึ้นเวที

เคยได้ยินมาว่า ตอนนั้นที่จัดงาน มีชื่อ ครั้งแรก ก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง วันก่อนที่จะประกาศศิลปินถึงขนาดเตรียมการจะขายที่ขายทางมาใช้หนี้ถ้างานมันไม่ประสบความสำเร็จ
เบนซ์ : ผมก็ลุ้น ผมกะจะขายกีต้าร์ที่ผมสะสมมา ก็ไม่รู้นะแต่ใจเรามันไปแล้วไง แล้วพอมันมีโอกาสมา มันก็ถือว่าประสบความสำเร็จที่เราสามารถทำได้ ก็มาทำปีแรก ทางผู้ใหญ่ ทางบ้าน ทางผู้บริหาร นายกอบต. ผู้ใหญ่ในพื้นที่เขาก็เอ็นดู
และชื่อ มีชื่อ มาจากอะไรครับ
เบนซ์ : มีชื่อนี่มาจาก ร้านเพื่อนผม A book with No Name มันมีแมว ผมถามเพื่อนว่า "เห้ยมันชื่ออะไรวะ ?" มันบอก "มีชื่อไง" อ่าว... ถามเสร็จ "กวนตีนกูหรอ" คือชื่อร้านมันคือ A book with No Name คือไม่มีชื่อ แต่แมวเสือกมีชื่อ แล้วผมก็ชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเอามาจัดเฟสติวัล ว่าจะเอามาตั้งเป็นชื่อศิลปินสักวงหนึ่ง แล้ว คณะขวัญใจ ก็แบบ เห้ย... ชอบวะ พวกมันอาจจะมองว่าแบบมีชื่อสิ ก็เลยแบบโอเคๆ เอาๆ จัดเฟสติวัลบ้านกู เป็นโฟล์ค เพราะกระแสโฟล์คมันเริ่มมา ก็เลยตั้งว่า มีชื่อโฟล์ค คนมันก็งงนะ
ชาวบ้านในพื้นที่มีผลตอบรับยังไงบ้าง กับการเข้าไปทำเฟสติวัลในพื้นที่ตรงนั้น ?
เบนซ์ : ตอนแรกตอนที่ผมบอกจะเข้าไปจัดงานดนตรี มีเฉพาะแม่ผมที่เข้าใจ แต่ก็เข้าใจไม่มาก แต่ชาวบ้านตอนแรกไม่เข้าใจเลย ผมจะจัดดนตรีบนเกาะกลางน้ำ เขาคิดเลยว่าผมจะขายบัตรเท่านี้ เขาคิดว่าบัตรราคานี้ใครจะมา อันนี้ได้ยินมาจากวัยรุ่นแถวนั้นนะ และเขาก็จะฟังเพลงอีกแบบนึงด้วย งานวัดที่แบบราคาบัตร 100 ยังไม่เข้ากันเลย แล้วผู้ใหญ่เขากลัวตีกัน ผู้ปกครองของเด็กเขากลัวตีกัน โน่นนี่แบบจัดงานอะไรงี้ เราก็ลองทำก่อน เราก็ให้คนในหมู่บ้านมีสิทธิ์ขายของก่อน แบบจะมีคนทั่วประเทศมานะ เขาก็ไม่ค่อยรู้กันหรอก นอกจากเด็กๆ เขาก็จะฟังลูกทุ่งที่เป็นแมส เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจในบางหมวดหมู่เพลง

แล้วจบงานเป็นไงบ้าง เขาแฮปปี้ไหม....
เบนซ์ : ตอนแรกบอกให้เขามาขายของนะ แต่บางคนเขาไม่กล้าจองบูท เพราะว่ากลัวขายไม่ได้ แต่หลังจบงานก็แฮปปี้ก็ขายได้นะ ตอนดำเนินงานก็อธิบายให้เขาเข้าใจแต่ผู้ใหญ่อะ อย่างนายก นายก อบต. นายกถิ่น แกเคยทำงานอยู่กรุงเทพ แกทำร้านอาหาร แกเข้าใจว่าสิ่งที่ผมสื่อสารไปมันคืออะไร แกเห็นภาพอยู่แล้ว แกเลยเปิดทางให้ แต่วัยรุ่นอาจจะยังไม่เข้าใจเท่าไหร่
อยากรู้ว่าคิดยังไงกับ งานมีชื่อโฟล์ค และภูมิใจกับมันมากน้อยแค่ไหน เพราะงานๆนี้ ก็ถือเป็นอีกงานดนตรีที่ประสบความสำเร็จ
เบนซ์ : รู้สึกเป็นอะไรที่ทำแล้ว มันแบบแฮปปี้ลำดับต้นๆของชีวิตเลย เพราะผมทำกับตัวเอง ทำด้วยความรู้สึก ไม่ได้เอามืออาชีพเข้าไปทำเลยครับ ทำด้วยความรู้สึกของผม แต่น้องผมที่อยู่ ทีมงาน น้องๆทุกคน คอยซัพพอร์ต ทั้งที่น้องๆยังเรียนไม่จบ แต่น้องๆอยู่เบื้องหลังเบื้องหน้า แล้วยิ่งกว่านั้นคือ ลุง ป้าน้า อา ที่ชุมชนก็เอาไม้ไผ่มาช่วยกัน แบบจบงานวันต่อวันอะ วันนี้ขุดเสาตรงนี้ ทำห้องน้ำตรงนี้ และได้มากินเหล้าขาว นั่งเล้าไก่ มันเหมือนงานที่จริงมาก เรารอต้อนรับที่เมื่อไหร่แขกบ้านแขกเมืองจะมา พอถึงวันปุ้บ คนแบบหยุดงานหมดเลย เบื้องหลังคนที่ทำฉากทำอะไรอะ แล้วก็ปล่อยให้เขาผ่อนคลายกัน แล้วมันก็ต่อเติมความสุขได้ แล้วคนเขาก็ช่วยกันไม่ได้คิดรายได้เพิ่ม ดูจากตุ๊กๆ ที่เข้ามา เขาเข้ามาช่วยกันไม่ได้คิดอะไร แล้วแต่พ่อค้าแม่ค้าที่จะให้ แกก็แฮปปี้ มีความสุขกัน


แล้วมองอนาคตของ มีชื่อ ไว้ยังไงบ้างครับ อย่างแต่ก่อนเราวางไว้ 1500 คน แต่คนมา 1800 คน ปีนี้ก็จะเพิ่มสเกลขึ้นมาเป็น 2000 คน
เบนซ์ : ก็ 3000 คนผมว่ากำลังพอดี ถ้าวัดจากปีที่แล้วครับ น่าจะอบอุ่น แล้วก็มีน้องๆที่เป็นอาสาสมัครในพื้นที่ จากโรงเรียนติ้ววิทยา อยากมาร่วมกิจกรรมเป็นทีม Staff การเช็คชื่อดู คนเข้ากัน น้องก็มีรายได้กัน แล้วปีแรกมันจัดไม่กี่วันเอง 2-3 วัน มีกีฬาสีด้วย แล้วเราก็ให้น้องๆมาช่วยทาสีที่ท่าน้ำ ก็มีเงินสนับสนุนให้น้องๆ สีละ 2500 มั้ง
มีชื่อ 1 กับ มีชื่อ 2 แตกต่างกันยังไง คนที่มาจะเจออะไรในงานครั้งนี้บ้าง
เบนซ์ : มีชื่อ 2 ก็จะเพิ่มในส่วนของการเปิดโอกาสศิลปินหน้าใหม่ แต่บางวงไม่หน้าใหม่ละนะ หมายถึงว่าก็จะมีการผสมผสาน ของคนที่มีความสามารถ ก็เลยมีวันเผาหัว วันหลัก ขึ้นมา ก็ประมาณนี้ครับ



เซอร์ไพรส์ของปีนี้ที่ผมเห็น เหมือนจะมีพี่เล็ก Hugo สำหรับครั้งนี้ด้วย ภายในงานครั้งนี้มันต้องพิเศษแน่ๆ น่ามีอะไรจะมาเซอร์ไพรส์ใช่ไหมครับ
เบนซ์ : ก็ พี่เล็ก Hugo ก็จะมาเป็นเซอร์ไพรส์ โดยจะมาร่วมเล่นกับ พี่ใหม่ สิบล้อ เล่นกันในรูปแบบ Acoustic นะครับ แบบดั้งเดิมของ สิบล้อ ไททศมิตรก็จะมาเป็นแบบ Acoustic ที่แบบหาดูไม่ได้ง่ายๆแน่นอนครับ อาจจะไม่เคยเห็นกันเลยด้วยซ้ำ และศิลปินปีนี้วันแรกของเรา ที่เป็นศิลปินหน้าใหม่แต่ไม่ใหม่เลย คือเดือดทั้งสองวันอะ แต่มาตั้งแต่วันแรกมันแบบอบอุ่นทั้งสองวันถ้าอยากคุ้มค่าบัตรก็มาตั้งแต่วันแรก ปกติปีที่แล้วเรามีแค่วันเดียวและมีวันแรกเป็นวันเผาหัวก็แจมกัน สนุกมากๆครับ

มีชื่อโฟล์คเฟสติวัล ครั้งที่ 2
เทศกาลดนตรี บนเกาะกลางน้ำ
ผิงไฟ ดูดาว รับลมหนาว นอนเต๊นท์
อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
วันที่ 6,7,8 พฤศจิกายน 2020
สามวันสองคืน
วันที่ 6 วันเผาหัว เวทีศิลปินหน้าใหม่ที่จะมาแจ้งเกิด
วันที่ 7 วันเผาจริง ศิลปินเวทีหลัก
วันที่ 8 วันไหล พักผ่อนตามอัธยาศัย แจมโฟล์ค
ประกาศรายชื่อ ศิลปินรอบแรก
จุลโหฬาร , HUGO & ใหม่สิบล้อ , อภิรมย์ , Zweed n' Roll , ไททศมิตร , t_047 บ้านข้างๆ , คณะขวัญใจ , เขียนไขและวานิช , สนิมหยก , Southern Boys , อาบู , ใหม่ สิบล้อ , เยนา , WHATFALSE , วรินทร์ , J.A.M , SITTA , ดวงดาว เดียวดาย , เรื่องฤทธิ์ , Sao Moonlight Gypsy , การิน , Abandoned House , เมืองแคน อิสระธรรม , Peam Peampart , ศรีนวล , Scootslande
________________________________________
รายชื่อศิลปินหน้าใหม่ร่วมงานปีนี้
แสดงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2020
เพ-ลา , Rust Jam , สวนไดโนเสาร์ , BigMuff , เสือสองเล , BoneHead , มนัสวีร์ , E-San Fusion , ดาวิดคิม , TheNu , สุภาพร สันติ , Kitties Peace , กระจกเงา , FannFann , สันติ , HavaYaatra , เบื๊อก , A DOG WITH NO NAME , นิยมขม , Throwback , ชีวิน และ เบรน ปิยะฉัตร , สนทนาไทเกอร์
กดซื้อบัตรได้แล้ววันนี้จนกว่าบัตรเต็ม
บัตรราคา 1000 บาท
จำกัดจำนวนบัตรและผู้เข้าชม 1800 ใบ
บัตรหนึ่งใบเข้างานได้ตลอดทุกวัน
กดติดต่อซื้อบัตรทาง
inbox เพจ มีชื่อโฟล์คเฟสติวัล
(ปีนี้ยังมีรถบัสรับส่งไปกลับ กทม. ถึง หน้างาน
เช่นเดิม ในราคา 700 บาท )